ธุรกิจโรงแรมได้กลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมส่วนใหญ่ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมการขายหรือการจอง จากสิ่งที่เราเคยคิดว่าขายได้ อาจจะไม่ได้ตอบโจทย์ลูกค้าแล้ว นอกจากนั้นพนักงานต้องมีการปรับตัวเช่นกัน การหาพนักงานเข้ามาเติมเต็มธุรกิจคือ ความท้าทายอย่างหนึ่งของโรงแรมที่เปิดหลังโควิด เพราะโรงแรมจะกลับมาเปิดพร้อมกัน และหลังจากห่างหายไปถึง 2 ปี อาจทำให้ความสามารถของพนักงานลดลง จึงต้องกลับมาเทรนนิ่งรื้อฟื้นระบบการทำงานกันใหม่อีกครั้ง

ซึ่ง ‘Yanh Ratchawat Hotel’ ก็เป็นหนึ่งในโรงแรมที่เลือกปรับเปลี่ยนวิถีการทำธุรกิจโรงแรมให้ผันตามความต้องการของลูกค้าในปัจจุบัน วันนี้คุณยิหวา ภูสีห์รัตน์ (นอย) General Manager (Hotel) จะมาเล่าถึงไอเดียของโรงแรมแห่งนี้ ที่ขานนามตัวเองว่าเป็นโรงแรมแบบ Workation Hotel เทรนด์ใหม่ที่ตอบโจทย์วิถีของคนยุคใหม่

โรงแรมเปิดตัวในช่วงมีนาฯ ที่ผ่านมากับพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่เปลี่ยนไป

พฤติกรรมนักท่องเที่ยวในปัจจุบัน พึ่งจะเริ่มเปิดหน้ากากกันอย่างมั่นใจ ซึ่งถึงแม้โรคอาจจะยังไม่หายไป แต่คนส่วนใหญ่นั้นเคยชินกับพฤติกรรมและพร้อมรับมือกับโรคมากขึ้น จึงกลับมาใช้ชีวิตแบบปกติ และอีกมุมหนึ่งที่คุณนอยได้บอกไว้นั่นคือ “นักท่องเที่ยวไม่ได้จัดสรรเวลาเพื่อไปเที่ยวในระยะยาว แต่เขาเลือกใช้เวลาในวันหยุดระยะสั้น อย่างเสาร์ อาทิตย์ เพื่อหาที่เที่ยว ทำให้มีลูกค้าจองห้องพักแบบ Short time เยอะ จากเติมลูกค้าจะมีการจองห้องพักระยะเวลาประมาณสองอาทิตย์ แต่ปัจจุบันเป็นชั่วโมงก็มี ถึงแม้ทางโรมแรมจะไม่สามารถคาดเดาล่วงหน้าได้ว่าจะมีผู้เข้าพักเท่าไหร่ชัดเจน แต่ก็เป็นข้อดีทีทำให้โรงแรมได้รายได้เพิ่มขึ้นจากพฤติกรรมที่เปลี่ยนไป”

ซึ่งส่วนใหญ่อาจจะคนไทย แต่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศใกล้ๆ ก็มีจำนวนไม่น้อย ยิ่งหลายบริษัทที่มีนโนบายแบบ Work From Anywhere มอบอิสระการทำงานให้กับพนักงานสามารถทำงานที่ไหนก็ได้ ขอเพียงรับผิดชอบงานของตนเองให้แล้วเสร็จ ซึ่งถือเป็นเทรนด์ที่หลายบริษัททั่วโลกเริ่มทำกัน ทำให้พนักงานสามารถได้รับประสบการณ์อื่นเพิ่มจากนอกสถานที่ด้วย

ทางผู้บริหารจึงเล็งเห็นถึงพฤติกรรมเหล่านี้ เมื่อหลายอาชีพสามารถทำงานนอกสถานที่ต่างๆ ได้ ไม่จำเป็นต้องเข้าออฟฟิศ และพฤติกรรมยังส่งเสริมในเรื่องของ Sustainablity ได้ดีอีกด้วย ช่วยลดการใช้พลังงาน และยังช่วยลดมลภาวะในการเดินทางไปทำงาน จึงเกิดเป็นไอเดียคอนเซ็ปต์ของโรงแรมที่ว่า ‘Workation Hotel’

แล้วทำไมต้องเป็นย่านราชวัตร?

"ท้าวความก่อนว่าพื้นที่นี้ เป็นอาคารเก่าของบริษัท และย่านราชวัตรเป็นแหล่งที่หลายคนเคยได้ยิน แต่ไม่เคยได้สัมผัส เหมือนย่านเมืองเก่าที่เต็มไปด้วยอาหาร เต็มไปด้วยวัฒนธรรม จึงคิดว่าเรามีทรัพย์ในมือที่มือคุณค่า ทำไมเราถึงไม่นำมาพัฒนาให้เกิดเป็นสถานที่ใหม่ๆ เพื่อให้คนรุ่นหลังและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เข้ามาสัมผัส” คุณนอยได้กล่าวถึงสาเหตุที่ต้องเป็นย่านราชวัตรแห่งนี้ พร้อมเผยกลุ่มเป้าหมายหลัก

หากถามถึงกลุ่มเป้าหมายหลักของโรงแรมแห่งนี้ เด่นชัดว่าเหมาะสมกับคนที่เดินทางท่องเที่ยวเพื่อมาทำงานทั้งคนไทยและต่างชาติ นอกจากนั้นยังรวมถึงใครก็ตามที่รู้จักย่านราชวัตรอยู่แล้ว ทั้งที่เคยอาศัยอยู่ในย่านนี้มาก่อน หรือไม่เคยก็ตาม ทางโรงแรมมีความต้องการให้พวกเขาได้กลับมาทำความรู้จักกับย่านนี้อีกครั้ง และในฝั่งของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ที่หลายคนไม่ได้มองหาการท่องเที่ยวเฉพาะย่านธุรกิจใจกลางเมืองเท่านั้น แต่พวกเขามองหาโรงแรมในกรุงเทพที่มีความสงบ และได้ซึบซับวัฒนธรรม นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้จึงเป็นอีกกลุ่มเป้าหมายของทางโรงแรม

(ขอบคุณรูปจาก Yanh Ratchawat Hotel)

ตอบโจทย์คนทำงานได้อย่างตรงจุด

อยากชวนให้ทุกคนลองคิดภาพตาม ถ้าหากเราเป็นคนทำงานที่ต้องการไปทำงานที่โรงแรม เราจะต้องการสิ่งใดบ้าง? ปฏิเสธไม่ได้ว่า ‘อินเทอร์เน็ต’ เป็นเรื่องที่สำคัญมากในการทำงานยุคนี้ ทางโรมแรงจึงตอบโจทย์ด้วยการกระจายจุดปล่อยสัญญาณทั่วทั่งโรงแรม ไม่ว่าคุณจะเดินไปทำงานที่จุดใดในโรงแรมก็สามารถทำงานได้อย่างรวดเร็ว ด้วยอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงที่ค่อนข้างมีความเสถียร

และเมื่อการทำงานที่ต้องใช้เครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์อยู่ตลอด ดังนั้น สิ่งที่จำเป็นต่อมาคือ ‘ปลั๊ก’ การไปทำงานสักที่ เรามักจะมองหาที่เสียบปลั๊กเพื่อต่อชีวิตให้กับเครื่องมืออำนวยความสะดวกของเรา ทางโรงแรมก็จัดเต็มกระจายจุดเสียบปลั๊กทั่วโรงแรม

อีกทั้งทางโรงแรมมีร้านกาแฟที่ถือกำเนิดมาเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ารุ่นใหม่ ที่ชอบทำงานในร้านกาแฟ ชั้นล่างเป็นร้านกาแฟ ชั้นบนจะเป็นพื้นที่ Workplace มีห้องประชุม มีโต๊ะที่สามารถนั่งทำงานได้ทั้งวัน และเลือกใช้เก้าอี้ Ergonomic Chair ที่มีคุณภาพให้ลูกค้าได้นั่งทำงานอย่างสบายและสุขภาพดีด้วย อีกทั้งยังเผยว่าในอนาคตอันใกล้บริเวณร้านกาแฟ ทางโรงแรมทราบดีว่าเมื่อคนทำงานหนัก ต้องการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์สักนิด จึงอาจจะพัฒนาเพื่อเปิดเป็นบาร์ให้นั่งชิวกันหลังทำงานได้ด้วย

ไม่อยากให้ Burnout เพราะเราเข้าใจคนทำงาน

หลายๆ คนมักทำงานเกินเวลาไปโดยไม่ได้ตั้งใจ เพราะบางคนอาจจะแบกความคาดหวังบางอย่างในการทำงาน ทั้งจากองค์กร หรือความคาดหวังในตัวเองมากเกินไป เพราะไม่รู้ขีดจำกัดของตัวเอง อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้รู้สึก Burnout ในการทำงานได้

คุณนอยบอกว่า “ในฐานะที่เราเป็นหัวหน้า เราพูดเสมอว่า ถ้าไม่ไหวให้เดินมาบอก องค์กรที่ดีหรือหัวหน้างานที่ดีคือ หัวหน้างานที่ฟังว่าพนักงานมีอะไร เพราะหากพนักงานหนึ่งคน Burnout อาจจะส่งผลให้ทั้งทีม Burnout ไปด้วย” และสองสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่เราต้องให้ความสำคัญ คือ เรื่อง Physically และ Mentally เราต้องได้รับเครื่องอำนวยความสะดวกและอุปกรณ์ที่ดีในการทำงานในแต่ละวันและในเรื่องของจิตใจเราก็ต้องได้รับการยอมรับและมีคุณค่าภายในองค์กรด้วย

"ไม่ว่าคุณทำอะไรเพียงเล็กน้อย เขาต้องได้รับความภูมิใจจากสิ่งที่เขาทำ แต่กลับกันหากว่าสิ่งที่พนักงานทำไปแต่กลับเกิดการถูกตรวจสอบอยู่ตลอด มันก็อาจทำให้เกิดการ BURNOUT มันทำให้พนักงานก้าวไปต่อไม่ได้” ซึ่งคุณนอย บอกว่าการ การมีสิ่งแวดล้อมในที่ทำงานที่ดีก็จะช่วยลดภาวะ BURNOUT ได้ หลายคนอาจจะเคยนั่งทำงานในบางที่ ที่ทำให้เรารู้สึกดี ช่วยทำให้คิดงานออก ส่งผลให้การทำงานของเราดีตามไปด้วย ดังนั้น สถานที่ทำงานสำคัญ

(ขอบคุณรูปจาก Yanh Ratchawat Hotel)

เพื่อให้คนเข้าใจในคอนเซ็ปต์ โรงแรมมีการโปรโมตอย่างไรบ้าง

คุณนอย ได้เผยว่า “เครื่องมือทางการตลาดเป็นสิ่งสำคัญ อย่างอินฟลูเอนเซอร์ หรือบล็อกเกอร์ เป็นตัวกลางสื่อสารความต้องการของโรงแรมไปสู่ลูกค้า เพราะโปรดักต์อย่างโรงแรม เป็นสิ่งที่ไม่สามารถจับต้องได้ เครื่องมือทางการตลาดจะช่วยให้ลูกค้าเข้าใจว่าเราต้องการจะสื่ออะไรในธุรกิจนี้” โดยมี Key message ที่ต้องการสื่อสาร คือ ‘Workation Hotel’ ที่เป็น Lifestyle Hotel สำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ แต่สำหรับคนไทย จะเน้นถึงย่านราชวัตรที่เป็นย่านเก่า จึงใช้ Key Message ที่ว่า ‘ Neighborhoods Hotel’

กระแสตอบรับหลังจากใช้เครื่องมือทางการตลาด

"หาากวัดผลจาก Market Share หรือ Booking ในสมัยก่อน เราจะแบ่ง Booking Channel ให้ออนไลน์เอเจนซี่มาก่อน ตามด้วยแบ่งให้เซลล์ ขายทัวร์ ขายองค์กร และสุดท้ายคือ Direct Booking ที่ลูกค้าเข้ามาจองเอง แต่พอเราใช้เครื่องมือการตลาดไป ผลที่ออกมาคือ แบ่งเป็น 50/50 ระหว่าง OTA (Online Travel Agency) และ Direct booking”

"เพราะทาง Tellscore ได้เลือกอินฟลูเอนเซอร์ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเรามากๆ และมีเนื้อหาที่เข้าถึงได้ ซึ่งอินฟลูฯ ที่เลือกใช้เป็นลักษณะ Expat ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีมากมาจากคนไทย เพราะที่จริงแล้วนั้น คนไทยเองติดตามอินฟลูฯ ต่างชาติค่อนข้างเยอะ ด้วยความที่โรงแรมเป็น Workation Hotel คนที่เข้ามาอยู่หรือเข้ามาดู (คอนเทนต์) ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่ทำงานแบบ Digital Nomad, Freelance หรือคนที่พร้อมจะเข้ามาทำงานแบบ Workation อยู่แล้ว และกระแสการทำงานแบบนี้เริ่มมาจากกระแสต่างประเทศก่อน ดังนั้น กลุ่มเป้าหมายของเราจึงติดตามกระแสจากต่างชาติ จึงไม่แปลกที่เขาจะติดตามอินฟลูฯ ต่างชาติ”

ผลตอบรับหลังจากการโปรโมต ในสัปดาห์แรกที่เปิดมี Direct Booking ที่ตามมาจากอินฟลูเอนเซอร์เข้ามาเยอะ ถือว่าเป็นกระแสตอบรับที่ดีเกินคาดจากเสียงของผู้ใช้งานจริงอย่างโรมแรม ‘Yanh Ratchawat Hotel’

วันนี้เราได้รู้ถึงเบื้องหลังแรงบันดาลใจและการโปรโมตโรงแรมแบบ Workation Hotel ในย่านเมืองเก่าที่หลายคนคุ้นชื่อ แต่ยังไม่เคยได้สัมผัส จากคุณนอย เราจึงอยากชวนให้คุณได้เปิดโอกาสเข้าไปสัมผัสกับประสบการณ์กับโรงแรมรูปแบบใหม่ที่จะช่วยเติมเต็มประสบการณ์การทำงานและพักผ่อนให้กับคุณ สำหรับใครที่สนใจสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.yanhhotel.com/

โรงแรมสำหรับคนทำงาน บนย่านเก่าที่คุ้นชื่อ แต่ไม่เคยได้สัมผัสอย่าง ‘Yanh Ratchawat Hotel’

Testimonial จากลูกค้า Tellscore